กระพริบตาให้บ่อย – รู้ตัวหรือไม่ว่าเมื่อใช้ Smartphone ความถี่ในการกระพริบตาเราจะลดลงกว่าปกติถึง 3 ใน 4 ดังนั้นทุกๆ 20 นาทีของการมองจอ Device ยอดฮิต ควรกระพริบตาอย่างน้อย 10 ครั้ง เพราะนอกจากช่วยให้ตาคู่สวยของคุณชุ่มชื้น ไม่แห้งเกินไปและลดการระคายเคืองแล้ว ยังเป็นการทำให้ทัศนวิสัยชัดเจนขึ้นด้วย
ใช้ฟิล์มลดแสงสะท้อน – เงินไม่มากที่ลงไปกับเรื่องนี้ช่วยคุณได้เยอะ ทั้งลดแสงสะท้อนจาก Smartphone คู่ใจและกันไม่ให้หน้าจอเป็นรอย โดยถ้าเป็นฟิล์มคุณภาพดียังสามารถป้องกันการแตกร้าวของหน้าจอได้เลย
ละสายตาบ้าง – เดินมากยังเมื่อยขา หากใช้สายตาจดจ้องกับสิ่งไหนนานๆ อาการเหนื่อยล้าย่อมเกิดขึ้นได้เช่นกัน ทางออกง่ายที่สุดคือการเปิดโอกาสให้อวัยวะคู่นี้ได้พักนั่นเอง โดยควรเตือนตัวเองให้ละวางสายตาจาก Smartphone หลับตาพักหรือมองพื้นที่สีเขียวบ้าง สัก 20 วินาที ทุกครั้งหลังใช้มาได้ 20 นาที
ความสว่างหน้าจอต้องใส่ใจ – สังเกตดีๆ ว่าระดับความสว่างหน้าจอ Smartphone มากหรือน้อยเกินไปหรือไม่ เพื่อกันไม่ให้กล้ามเนื้อตาล้าและ Focus ยังชัดเจน โดยในการปรับทุกครั้งนอกจากความสว่างของหน้าจอแล้วควรคำนึงถึงแสงในบริเวณที่คุณอยู่ด้วย ขณะเดียวกันหากไม่จำเป็นก็ควรเลี่ยงการใช้ “โทรศัพท์อัจริยะ” ในที่แสงน้อยก่อนนอน เพราะนี่คือต้นเหตุของทั้งอาการนอนไม่หลับและบั่นทอนความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยา
ไม่มองข้ามขนาดตัวอักษร – Smartphone แทบจะกลายเป็นช่องทางเสพย์ข้อมูลข่าวสารหลักของเราไปแล้ว ดังนั้นเพื่อให้อ่านข้อความจาก Website ,E-mail ,Social Media ,ปฏิทิน หรือตารางนัดหมายได้อย่างชัดเจน ควรเสียเวลาปรับขนาดตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้นมากว่าปกติหรือขยายภาพหน้าจอสักหน่อย อย่าฝืนอ่านไปทั้งที่เห็นไม่ชัดเลย เพราะนอกจากทำให้ตาล้าโดยใช่เหตุแล้วยังส่งผลให้เข้าใจความหมายตกๆหล่นอีกด้วย
หมั่นเช็ดหน้าจอให้สะอาด – ฝุ่นผง คราบเปื้อน รอยนิ้วมือและคราบมันจากใบหน้าล้วนเป็นอุปสรรคต่อการมองหน้าจอและทำให้ตาล้าได้ทั้งสิ้น ฉะนั้นควรหมั่นขจัดให้พ้นไป แต่ควรใช้ผ้าแห้ง เพราะ Smartphone ถือเป็นอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคอย่างหนึ่งหากเจอน้ำหรือความชื้นจากผ้าเปียกเข้าไปอาจช็อตได้
มองในระยะเหมาะสม – คนส่วนใหญ่แล้วเรามอง Smartphone ห่างจากตาแค่เพียง 8 นิ้วเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ระยะที่เหมาะสม โดยเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนักเกินไปควรให้ตากับ Device ห่างกัน 16 – 18 นิ้ว / entrepreneur
ที่มา: marketeer